วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หน่วยการเรียนรู้ที่ 5

เซต (Set) 

เมื่อพูดถึงเซตในเชิงคณิตศาสตร์ จะหมายถึงกลุ่มของอะไรบางอย่าง เรานิยมเขียนชื่อเซตด้วยอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น

 ให้ 
A เป็นเซตของผลไม้, A = {สับปะรด, ทุเรียน, มังคุด, ลำไย, ลิ้นจี่}   จำนวนสมาชิกของ A, n(A)=5
 ให้ B เป็นเซตสีของรุ้ง จะได้ B = {สีม่วง, สีคราม, สีน้ำเงิน, สีเขียว, สีเหลือง, สีแสด, สีแดง} และ n(B)=7
ถ้าเราสามารถเขียนและนับจำนวนสมาชิกในเซตได้ชัดเจนแบบนี้ จะเรียกว่าเป็นเซตจำกัด (Finite Set)  จะใช้สัญลักษณ์ «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8712;«/mo»«/math» แทนคำว่า “เป็นสมาชิกของ” เช่น ทุเรียน «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8712;«/mo»«/math» A, สีแดง «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8712;«/mo»«/math» B และจะใช้สัญลักษณ์ «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8713;«/mo»«/math» แทนคำว่า “ไม่เป็นสมาชิก ของ” เช่น สีดำ «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8713;«/mo»«/math» B

 ให้ C เป็นเซตของจำนวนเต็มที่น้อยกว่า 3 จะได้ C = {2, 1, 0, -1, …} ในกรณีนี้จะเห็นว่าจำนวนสมาชิกของเซตมีมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้น จึงหา n(C) ไม่ได้ เราเรียกเซตลักษณะนี้ว่า เซตอนันต์ (Infinite Set)
เราสามารถอธิบายเซตในลักษณะเป็นเงื่อนไขแทนการแจกแจงสมาชิก เช่น C={x «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8712;«/mo»«/math» I | x<3} เมื่อ I เป็นเซตของจำนวนเต็ม

 สำหรับเซตที่ไม่มีสมาชิกอยู่เลย จะเรียกว่า เซตว่าง (Empty Set หรือ Null Set) จะใช้สัญลักษณ์ { }, «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8709;«/mo»«/math» เช่น ให้ D เป็นเซตของชื่อจังหวัดในประเทศไทยที่ขึ้นต้นด้วยตัว ฟ จะได้ D={ } และ n(D) = 0

 เซตที่มีสมาชิกเหมือนกัน (ตำแหน่งจะสลับกันก็ได้) จะเป็นเซตที่เท่ากัน
เช่น A = {1, 2, 3}         B = {3, 1, 2}   กล่าวได้ว่า   A = B
 โดยปกติแล้ว สมาชิกในเซตจะถูกกำหนดขอบเขตไว้จำกัด จะเรียกขอบเขตนั้นว่าเอกภพสัมพัทธ์ (Universal set) เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์ และสมาชิกของเซตที่กล่าวถึงจะต้องเป็นสมาชิกของ  เท่านั้น


สับเซต (Subset)
 

สับเซต หมายถึงเซตย่อย เช่นหากก
ล่าวว่า B เป็นสับเซตของ A (B «math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8834;«/mo»«/math» A) ถ้าสมาชิกทุกตัวของ B เป็นสมาชิกของ A
และควรจำไว้ว่า เซตว่างเป็นสับเซตของทุกเซต
Ex จงหาสับเซตทั้งหมดของ A เมื่อ A = {2, 4, 6, 8}
Soln จำนวนสับเซตทั้งหมดหาได้จาก 2n เมื่อ n=จำนวนสมาชิกในเซต
ดังนั้น A จะมีสับเซตทั้งหมด 24=16 สับเซต ดังนี้
«math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8709;«/mo»«/math»
{2}  {4}  {6}  {8}
{2, 4}  {2, 6}  {2, 8}  {4, 6}  {4, 8}  {6, 8}
{2, 4, 6}  {2, 6, 8}  {2, 4, 8}  {4, 6, 8}
{2, 4, 6, 8}

เพาเวอร์เซต (Power set)
หมายถึงเซตของสับเซต จะเขียนแทนเพาเวอร์เซต
ของเซต A ด้วย P(A)
วิธีหาเพาเวอร์เซต จะต้องหาสับเซตทั้งหมดให้ได้ก่อน จากนั้นจึงใส่เซตครอบลงไป
จากตัวอย่างข้างต้น จะได้เพาเวอร์เซต P(A) = {«math xmlns=¨http://www.w3.org/1998/Math/MathML¨»«mo»§#8709;«/mo»«/math», {2}, {4}, {6}, {8}, {2, 4}, {2, 6}, {2, 8}, {4, 6}, {4, 8}, {6, 8}, {2, 4, 6}, {2, 6, 8}, {2, 4, 8}, {4, 6, 8}, {2, 4, 6, 8}}

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น